ค่าเลเวอเรจในฟอเรก หรือที่เรียกว่าการซื้อขายด้วยมาร์จิ้นนั้นเป็นดาบสองคมที่ทรงพลัง จุดแข็งคือทำให้เทรดเดอร์สามารถลงทุนในตำแหน่งในคู่สกุลเงินที่ใหญ่กว่าการลงทุนเริ่มแรกได้ ถึงแม้ว่าการลงทุนด้วยเลเวอเรจจะช่วยเพิ่มผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นการเพิ่มระดับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง กับการซื้อขายฟอเรกได้อีกด้วย เอาละ มาทำความรู้จักกับค่าเลเวอเรจใน Forex ก่อนที่จะลงทุนกันเลย!   

ทำความเข้าใจกับค่าเลเวอเรจในฟอเรก 

ค่าเลเวอเรจมักจะแสดงเป็นอัตราส่วน เช่น 50:1, 100:1 หรือ 500:1 และบ่งชี้ถึงผลคูณที่เงินทุนของเทรดเดอร์ ซึ่งสามารถขยายได้ ยกตัวอย่างเช่น ด้วยเลเวอเรจ 100:1 เทรดเดอร์สามารถควบคุมขนาดตำแหน่งที่ใหญ่กว่าการลงทุนเริ่มแรกได้ 100 เท่า เลเวอเรจชทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าร่วมในตลาดฟอเร็กซ์ด้วยเงินทุนที่ค่อนข้างน้อย ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ในวงกว้างขึ้น 

การทำงานของค่าเลเวอเรจ  

เพื่อทำความเข้าใจกับค่าเลเวอเรจให้มากขึ้น เราได้นำตัวอย่างมาแนะนำกัน  

  1. ไม่มีเลเวอเรจ ถ้าคุณมีเงิน $1,000 และต้องการซื้อขายคู่สกุลเงิน EUR/USD คุณสามารถซื้อขายได้เฉพาะล็อตมาตรฐานเท่านั้น (ซึ่งก็คือ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก ในกรณีนี้คือ ยูโร) หาก EUR/USD เคลื่อนไหว 1% กำไรหรือขาดทุนของคุณจะเท่ากับ $1,000 (1% ของ $100,000) 
  1. มีเลเวอเรจ ด้วยจำนวนเลเวอเรจ 100:1 เงินจำนวน $1,000 เดียวกันนี้ จะทำให้คุณสามารถควบคุมขนาดตำแหน่งที่ $100,000 ได้ ตอนนี้ หาก EUR/USD เคลื่อนไหว 1% กำไรหรือขาดทุนของคุณจะยังคงอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์ แต่จะขึ้นอยู่กับสถานะ 100,000 ดอลลาร์ที่คุณควบคุม ไม่ใช่ 1,000 ดอลลาร์เริ่มต้นของคุณ 

เลเวอเรจทำให้คุณมีโอกาสได้รับกำไรมากขึ้นจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ก็ยังหมายความว่าความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นนั้นจะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เลเวอเรจในฟอเรกเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถขยายได้ทั้งกำไรและขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะให้โอกาสแก่เทรดเดอร์ที่มีเงินทุนจำกัดในการเข้าร่วมในตลาด แต่ก็มีความเสี่ยงที่สำคัญเช่นกัน  

หากต้องการใช้เลเวอเรจอย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำให้เทรดเดอร์จัดลำดับความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง กำหนดคำสั่งหยุดการขาดทุนที่เหมาะสม และรักษาความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับกลไกและผลกระทบของเลเวอเรจ และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องซื้อขายกับบริษัทโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมอย่างดี และให้ข้อมูลที่โปร่งใสเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านเลเวอเรจและมาร์จิ้น เพื่อนำไปบริหารความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ